บทที่ ๔
การปฏิบัติงานในสายสนับสนุน ด้วยระบบ PDCA
การนำระบบวงจรคุณภาพ
(PDCA) มาใช้ในงานสายสนับสนุน ฝ่ายบริหาร วิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง
เพื่อการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ ในแต่ละงานได้เสนอความคิดเห็น สรุปตามขั้นตอน
ดังนี้
ขั้นตอนที่
๑ การวางแผน (P-Plan ) แต่ละงานมีการวางแผนการปฏิบัติงานสรุปเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
คือ
๑. ประชุมวางแผนงาน (การกำหนดว่ามีอะไรต้องทำบ้าง) การประชุมเป็นการเตรียมการทำงานที่จะทำให้งานสำเร็จและมีประสิทธิภาพ
ในประชุมวางแผนงาน ต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่จะทำงานให้ชัดเจน แนวทางการดำเนินงานทำอย่างไร
ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ระยะเวลาในการทำงาน และต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง
มีการกำหนดการประเมินผล ติดตามผล รวบรวมข้อมูลอย่างไร เพื่อง่ายในการดำเนินการ
๒. กำหนดเป้าหมาย (เป้าหมายคืออะไร)
เป็นการกำหนดทิศทางการทำงานที่ให้เป็นไปตามเป้าหมายหรือนโยบายของการปฏิบัติงานในสายงาน
และองค์กร
๓. มอบหมายผู้รับผิดชอบ ( ใครทำและทำอะไร ) เป็นการกำหนดผู้รับผิดชอบที่เหมาะสมในการดำเนินการแต่ละขั้นตอน
กล่าวง่ายๆ คือ การใช้คนให้ตรงกับงาน
จะทำให้งานบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
๔.เตรียมวัสดุอุปกรณ์ (ต้องใช้อะไรบ้าง) เป็นการกำหนดงบประมาณ ว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เช่น
ต้องซื้อวัสดุ อุปกรณ์ ค่าตอบแทน
และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นในงาน โดยคำนึงถึงความพอเพียง ความเหมาะสม และคุ้มค่า
๕. ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน (ระยะเวลาในการทำงานแต่ละขั้นตอนใช้เวลาเท่าไร)
การกำหนดเวลาในการปฏิบัติงานทำให้งานมีประสิทธิภาพ
เพราะจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานทราบว่างานใดควรจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นเมื่อไร
อะไรควรทำก่อน อะไรควรทำที่หลัง สามารถติดตามงานให้เป็นไปตามเป้าหมายด้วยกำหนดเวลา
๗.ปฏิบัติงานตามแผน (ทำอย่างไร ทำเมื่อใด ทำที่ไหน มีขั้นตอนอย่างไร ) มีการกำหนดขั้นตอนวิธีการปฏิบัติให้ชัดเจน
๘.ติดตามผลและประเมินผล (มีการติดตามและประเมินผลอย่างไร) มีการกำหนดรูปแบบการติดตามผล
และประเมินผลไว้ล่วงหน้า เพื่อสะดวกในการจัดเก็บข้อมูล
๙. ปรับปรุง และรายงานผล เผยแพร่ (ควรปรับปรุงอะไรบ้าง
และ รายงานผล เผยแพร่ให้ใครได้รับทราบ) หากงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ควรดำเนินการแก้ไขอย่างไร เพื่อให้งานเกิดประสิทธิภาพ
และได้ผลตามเป้าหมายที่ต้องการ สำหรับการรายงานผลใครเป็นผู้ที่ต้องรับรู้การทำงานในครั้งนี้บ้าง
ทำให้เกิดการเผยแพร่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานกับหน่วยงานอื่นต่อไป
ขั้นตอนที่ ๒
การปฏิบัติ ( D – Do ) แต่ละงานมีแนวทางการปฏิบัติงาน ดังนี้
๑.
งานบุคลากรและสวัสดิการครู : จัดทำปฏิทินงาน เผยแพร่ให้ทุกคนถือปฏิบัติ
ผู้ปฏิบัติงานต้องเข้าใจงานเป็นอย่างดีพร้อมให้คำแนะนำ ใช้การประชาสัมพันธ์ทุกวิธี
ประชุมเพื่อปรึกษาปัญหา อุปสรรคและแก้ไขปัญหาอุปสรรค
๒.
งานการเงินและบัญชี : การปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด ลงมือปฏิบัติตรวจสอบความถูกต้อง
และดำเนินการแก้ไขก่อนการลงมือปฏิบัติ
๓. งานแผนงานและงบประมาณ : เข้าใจขอบข่ายของงาน เสียสละเวลา
ดำเนินการตามปฏิทินปฏิบัติงานแผนปฏิบัติการประจำปี
แผนปฏิบัติราชการและแนวทางของแผนกลยุทธ์พัฒนาวิทยาลัย และความต้องการของบุคลากร
มีแบบฟอร์มครบถ้วนสามารถใช้ได้จริง ประชุมผู้เกี่ยวข้อง ประสานงานด้วยมิตรภาพ
ติดตามประเมินผล เมื่อมีปัญหาและอุปสรรคสอบถามผู้รู้เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรค และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ
๔.
งานประชาสัมพันธ์ : มอบหมายหน้าที่
ผู้ปฏิบัติงานตามหน้าที่
กำหนดเวลาในการทำงานตามปฏิทินและปฏิบัติตาม
ประสานงานกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกเพื่อรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์
๕.งานธุรการและสารบรรณ : ปฏิบัติงานตามหลักกิจกรรม ๕ ส คือ สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ
และสร้างนิสัย
๖.
งานพัสดุ : ปฏิบัติงานตามแผน
สำรวจความต้องการของบุคลากร จัดซื้อ/จัดจ้าง ตามระเบียบวัสดุครุภัณฑ์ ดูแลรักษา
ซ่อมบำรุงให้พร้อมกับการใช้งานเสมอ
๗.
งานยานพาหนะ : สร้างพนักงานขับรถที่มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบรถยนต์ให้พร้อมการใช้งาน
และบริหารจัดการการใช้รถอย่างมีประสิทธิภาพ
๘.
งานอาคารสถานที่ : ยึดหลัก
“ต้อง ๓ พร้อม” คือ อาคารสถานที่พร้อม อุปกรณ์พร้อม และผู้ปฏิบัติงานพร้อม
๙.
งานรักษาความปลอดภัย : ปฏิบัติงานตามแผน มีปัญหาต้องแก้ไข กำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัย
และควบคุมให้เป็นไปตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
๑๐.
งานสารสนเทศ : กำหนดเป้าหมายในการเก็บข้อมูล
มอบหมายงาน กำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และมีมาตรการแก้ไขปัญหาหากไม่ได้ข้อมูล
งานในสายสนับสนุน สามารถปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพต้องปฏิบัติดังนี้
๑. ปฏิบัติงานตามแผนงาน โดยวางแผนกำหนดการ แยกกิจกรรมที่ต้องกระทำ กำหนดเวลาในแต่ละขั้นตอน และจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้
๒. มอบหมายผู้รับผิดชอบ เมื่อรับมอบหมายหน้าที่ให้ปฏิบัติงาน
สิ่งสำคัญของผู้ปฏิบัติงาน คือ
ผู้ปฏิบัติทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีความรู้
ความสามารถในการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี มีความเสียสละ และมีจิตใจที่ดีงาม
จึงจะทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ
๓. วางแผนการแก้ไขปัญหา อุปสรรค การทำงานงานแต่ละขั้นตอนมักมีปัญหาอุปสรรค
ฉะนั้น การปฏิบัติงานหากมีปัญหา ควรมีการประชุมเพื่อหาทางออกให้กับงาน
จะทำให้งานดำเนินไปด้วยความราบรื่น
ขั้นตอนที่ ๓ การตรวจสอบ ( C - Check ) งานสายสนับสนุนมีแนวทางการปฏิบัติงาน
ดังนี้
๑.
งานบุคลากรและสวัสดิการครู : ใช้วิธีการประเมินความพึงพอใจ และประเมินผลตามสภาพจริง
๒. งานการเงินและบัญชี : ตรวจสอบ และติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
ให้เป็นไปตามกำหนด
๓. งานแผนงานและงบประมาณ : มอบหมายผู้รับผิดชอบ รวบรวมข้อมูล
รายงานผล และตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี
ให้เป็นไปตามเป้าหมายในการเบิกจ่าย หากเกิดปัญหา อุปสรรค แก้ปัญหาแบบมิตรภาพ
๔.
งานประชาสัมพันธ์ : ติดตามผลการปฏิบัติงานให้ได้ตามที่กำหนด
ประเมินผลความพึงพอใจ และประเมินความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย
๕.
งานธุรการและสารบรรณ : ผู้ปฏิบัติงานต้องติดตาม วัด และทบทวน เพื่อตรวจสอบผลการดำเนินการ
คือเปรียบเทียบความสำเร็จเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการ
ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรแนวโน้มของผลการดำเนินงาน และปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
๖. งานพัสดุ : การดำเนินการต้องติดตามการตรวจสอบและการประเมินปัญหาควบคู่ไปกับการดำเนินงานขั้นตอน
๗.
งานยานพาหนะ : ประเมินผลความพึงพอใจทุกครั้งเมื่อมีการปฏิบัติงาน
โดยแบ่งเป็น ๓ ด้าน คือ พนักงานขับรถ
การดูแล รักษายานพาหนะ และ การบริหารจัดการ ประมวลผล
สรุปรายงานต่อผู้บังคับบัญชา
๘.
งานอาคารสถานที่ : มีการประชุมเพื่อประเมินผลการดำเนินการ
และประเมินผลความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ประมวลผล
สรุปและรายงานผลต่อผู้บังคับบัญชา
๙.
งานรักษาความปลอดภัย : ตรวจสอบการดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
และประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ
๑๐.
งานสารสนเทศ : ประชุมผู้ปฏิบัติงานสรุปงานติดตามความก้าวหน้า
มีปัญหา ระดมสมองเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรค และปรับปรุงให้เป็นไปตามเป้าหมาย
สรุปภาพรวมของการตรวจสอบ ( C- Check ) มีการตรวจสอบ ๒ แบบ คือ
๑. การประเมินผลความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ โดยการทำแบบประเมินความพึงพอใจ
เพื่อแจกให้กับผู้รับบริการทุกท่าน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมาย และตรวจสอบความน่าเชื่อในการประเมิน
๒. ประเมินจากการปฏิบัติงานตามสภาพจริง
การประชุมหรือหัวหน้างาน ติดตามความก้าวหน้า เมื่อมีปัญหา อุปสรรค
ดำเนินการแก้ไขในทันที เพื่อให้งานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
ขั้นตอนที่ ๔
การปรับปรุง (A- Act ) งานสายสนับสนุนมีการปรับปรุงการปฏิบัติงาน
ให้เป็นไปตามระบบ PDCA ทั้ง ๑๐ งาน มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
สรุปได้ดังนี้
๑. การนำผลการประเมินมาปรับปรุงงาน
หลังจากประเมินผลในขั้นตรวจสอบ (
C- Check )
รวบรวมผลการประเมินมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ แปลผลในภาพรวมทั้งหมด มาปรับปรุงการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน
และปรับปรุงแผนการดำเนินงาน
ให้เป็นไปตามแผน และเป้าหมายที่กำหนดไว้
๒. วางแผนการพัฒนา เมื่อทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นปรับปรุงแก้ไขให้ได้ตามเป้าหมาย
สิ่งที่ต้องทำอีกขั้นหนึ่ง คือ
ต้องพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะการปฏิบัติงานไม่ควรย่ำอยู่กับที่ ควรเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้สูงขึ้น
๓. รายงานข้อมูล
นำข้อมูลที่ได้รายงานผลต่อผู้บังคับบัญชา และควรนำข้อมูลที่ได้รับจากการพัฒนาเป็นข้อมูลสารสนเทศที่สามารถใช้ได้สะดวก
รวดเร็ว และเป็นปัจจุบัน
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานและประกอบการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ
การนำระบบวงจรคุณภาพ
(PDCA) มาใช้ในการปฏิบัติงานในสายสนับสนุน
ทำให้การทำงานเป็นไปตามขั้นตอน หากการปฏิบัติงานเป็นไปตามวงจรคุณภาพที่กำหนด
ก็จะทำให้งานบรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และหากการดำเนินงานเกิดปัญหาหรือสะดุด
ไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดแสดงว่าการปฏิบัติงานขั้นตอนใดหายไป ต้องทบทวนแก้ไข
เพื่องานเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น