วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สรุปและข้อเสนอแนะ

บทที่ 5
สรุป ปัญหา และข้อเสนอแนะ
       
          การปฏิบัติงานสายสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ โดยในระบบ PDCA  มีข้อสรุป ปัญหา และข้อเสนอแนะ ดังนี้

สรุป
            งานสายสนับสนุนเป็นงานในฝ่ายบริหาร  มีงานในสายงานทั้งหมด  ๑๐  งาน ประกอบด้วย  คือ  งานธุรการและสารบรรณ  งานบุคลากรและสวัสดิการ  งานการเงินและบัญชี  งานแผนงานและงบประมาณ  งานพัสดุงานยานพาหนะ  งานอาคารสถานที่  งานรักษาความปลอดภัย  งานสารสนเทศ  งานประชาสัมพันธ์ ขอบข่ายในการปฏิบัติงานมีความหลากหลายแต่งานหลักจะเป็นการบริการให้กับครู บุคลากร นักเรียน นักศึกษา และบุคคลภายนอก
            ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของสายสนับสนุน คือ การกระทำของแต่ละบุคคลที่มีความสามารถ
 และความพร้อม ทุ่มเทอย่างเต็มใจในการปฏิบัติงานของตนอย่างคล่องแคล่ว ด้วยความมีระเบียบ มีกฎเกณฑ์ ปฏิบัติงานให้เสร็จทันเวลา รวดเร็ว ถูกต้อง มีคุณภาพและมาตรฐาน  ปัจจัยที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน มี ๓ ปัจจัย คือ คน การปฏิบัติงาน และการบริหารงาน 
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสายสนับสนุนมีเทคนิควิธีการพอสรุปได้ คือ
            ๑. ผู้ปฏิบัติงาน  ต้องมีความรู้ความเข้าใจในงานที่ตัวเองปฏิบัติ มีประสบการณ์ มีความถูกต้องแม่นยำในการทำงานเพื่อลดความผิดพลาด  มีความริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นมิตรที่ดีกับผู้ปฏิบัติงานด้วยกัน นอกจากนี้ต้องมีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานมีความเสียสละเวลาในการปฏิบัติงาน จึงจะเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ                   ในการปฏิบัติงาน
            ๒. มีการวางแผนงานที่ชัดเจน ในที่นี้งานสายสนับสนุนของวิทยาลัย ได้นำการวางแผนการปฏิบัติงาน ด้วยระบบ PDCA  คือ มีการวางแผน การปฏิบัติ การตรวจสอบ และการปรับปรุง ซึ่งเป็นการสร้างศักยภาพในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น
            ๓. มีการบริหารเวลา การทำงานทุกครั้งจะเห็นว่างานในสายสนับสนุนจะนำปฏิทินปฏิบัติงานมาใช้  เพื่อกระตุ้นเตือนผู้ปฏิบัติงานและผู้รับบริการ ให้ทำงานให้ตรงกับเวลาจะได้ไม่เสียสิทธิประโยชน์และสะดวกในการปฏิบัติงาน
            ๔. การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน ต้องยอมรับว่าการนำเทคโนโลยีมาช่วย ในการทำงาน ทำให้ประหยัดเวลา ในการติดต่อสั่งการหรือแม้กระทั่ง การรวบรวมข้อมูล ส่งข้อมูล บางทีผู้บริหารข้อมูลจากงานสายสนับสนุน สามารถส่งข้อมูลทั้งหมดผ่าน ระบบ Internet (E-mail) แม้การประชุมในปัจจุบันมีการนำระบบ วีดีโอคอนเฟอเรนท์ มาใช้ในการประชุม ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังส่วนกลาง
           
            ๕. การทำงานเป็นทีม การร่วมมือร่วมใจเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ มีผู้นำ  ที่ดี มีการยอมรับซึ่งกันและกันในการปฏิบัติงาน มีความไว้วางใจกัน มีความจริงใจ ไม่คำนึงแต่ประโยชน์ส่วนตนจนทำให้การปฏิบัติงานเสียหาย
การนำระบบวงจรคุณภาพ PDCA มาใช้ในการปฏิบัติงาน หลักการของ PDCA มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
ขั้นตอนที่ ๑ การวางแผน (Plan) ได้แก่ การเตรียมการไว้ล่วงหน้าเพื่อจะทำงานให้สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดเป้าหมาย จัดทำแผนตามเป้าหมาย แนวทางการดำเนินงาน ระยะเวลา งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ และการประเมินผล
ขั้นตอนที่ ๒ การดำเนินตามแผน (Do) ได้แก่ การดำเนินงานต่อเนื่องจากการวางแผน โดยมีการอบรม ประชุมชี้แจง มอบหมายผู้รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนงบประมาณ ทรัพยากร บุคลากร       และดำเนินการนิเทศ แนะนำ กำกับ ติดตาม เพื่อให้งานเป็นไปตามแผนที่กำหนด
ขั้นตอนที่ ๓ การตรวจสอบ (Check) ได้แก่ การประเมินผลการปฏิบัติตามแผน โดยจัดให้มีการประเมินผลตามแผนที่กำหนด วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้องจากการเปรียบเทียบระหว่างเป้าหมายกับการดำเนินตามแผน เพื่อจะทราบว่าต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
ขั้นตอนที่ ๔ การปรับปรุงแก้ไข (Act) ได้แก่ การนำผลการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุที่เกี่ยวข้อง  มาปรับปรุงแก้ไข และหากผลการดำเนินงานยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานใหม่ให้เหมาะสมในการวางแผนระยะต่อไป แต่ถ้าผลการประเมินพบว่างานสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว ในการวางแผนครั้งต่อไปต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายให้สูงขึ้นเพื่อให้เกิดการพัฒนา และจัดทำรายงานไว้เป็นหลักฐาน
          การปฏิบัติงานสายสนับสนุน ด้วยระบบ PDCA ของแต่ละสายงานมี ดังนี้
          ขั้นตอนที่ ๑ การวางแผน  (P-Plan )แต่ละงานมีการวางแผนการปฏิบัติงานสรุปเป็นไป         ในแนวทางเดียวกัน คือ ประชุมวางแผนงาน  กำหนดเป้าหมาย มอบหมายผู้รับผิดชอบ เตรียมวัสดุอุปกรณ์  ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ปฏิบัติงานตามแผน ติดตามผลและประเมินผล  ปรับปรุง และรายงานผลเผยแพร่
ขั้นตอนที่ ๒ การปฏิบัติ ( D – Do ) 
๑. ปฏิบัติงานตามแผนงาน โดยวางแผนกำหนดการ แยกกิจกรรมที่ต้องกระทำ  กำหนดเวลาในแต่ละขั้นตอนและจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้
๒. มอบหมายผู้รับผิดชอบ เมื่อรับมอบหมายหน้าที่ให้ปฏิบัติงาน สิ่งสำคัญของผู้ปฏิบัติงาน คือ            ผู้ปฏิบัติทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่  มีความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย     เป็นอย่างดี มีความเสียสละ และมีจิตใจที่ดีงาม จึงจะทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ
๓.วางแผนการแก้ไขปัญหา อุปสรรค การทำงานแต่ละขั้นตอนมักมีปัญหาอุปสรรค ฉะนั้น           การปฏิบัติงานหากมีปัญหา ควรมีการประชุมเพื่อหาทางออกให้กับงาน จะทำให้งานดำเนินไปด้วยความราบรื่น


          ขั้นตอนที่ ๓ การตรวจสอบ ( C- Check )  มีการตรวจสอบ ๒ แบบ คือ
๑. การประเมินผลความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ โดยการทำแบบประเมินความพึงพอใจ                   เพื่อแจกให้กับผู้รับบริการทุกท่าน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมาย และตรวจสอบความน่าเชื่อ              ในการประเมิน
๒. ประเมินจากการปฏิบัติงานตามสภาพจริง  การประชุมหรือหัวหน้างาน  ติดตามความก้าวหน้า      เมื่อมีปัญหา อุปสรรค ดำเนินการแก้ไขในทันที เพื่อให้งานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
ขั้นตอนที่ ๔ การปรับปรุง (A-Act ) งานสายสนับสนุนมีการปรับปรุงการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระบบ PDCA  ทั้ง ๑๐ งาน มีลักษณะคล้ายคลึงกัน สรุปได้ดังนี้
๑. การนำผลการประเมินมาปรับปรุงงาน หลังจากประเมินผลในขั้นตรวจสอบ( C-Check ) รวบรวมผลการประเมินมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ แปลผลในภาพรวมทั้งหมด มาปรับปรุงการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน       และปรับปรุงแผนการดำเนินงาน  ให้เป็นไปตามแผน และเป้าหมายที่กำหนดไว้
๒. วางแผนการพัฒนาเมื่อทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นปรับปรุงแก้ไขให้ได้ตามเป้าหมาย สิ่งที่ต้องทำอีกขั้นหนึ่ง  คือ ต้องพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะการปฏิบัติงานไม่ควรย่ำอยู่กับที่ ควรเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้สูงขึ้น
๓. รายงานข้อมูล นำข้อมูลที่ได้รายงานผลต่อผู้บังคับบัญชา และควรนำข้อมูลที่ได้รับจากการพัฒนาเป็นข้อมูลสารสนเทศที่สามารถใช้ได้สะดวก รวดเร็ว และเป็นปัจจุบัน  ซึ่งจะเป็นประโยชน์        ในการปฏิบัติงานและประกอบการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ
การนำระบบวงจรคุณภาพ (PDCA) มาใช้ในการปฏิบัติงานในสายสนับสนุน ทำให้การทำงานเป็นไปตามขั้นตอน หากการปฏิบัติงานเป็นไปตามวงจรคุณภาพที่กำหนด ก็จะทำให้งานบรรลุผล       ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และหากการดำเนินงานเกิดปัญหาหรือสะดุด ไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด       แสดงว่าการปฏิบัติงานขั้นตอนใดหายไป ต้องทบทวนแก้ไข เพื่องานเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ปัญหา
          ปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงานในสายสนับสนุนสำคัญ มีดังนี้
๑. ตัวผู้ปฏิบัติงาน เนื่องมาจากผู้ปฏิบัติงานเกือบทั้งหมดเป็นข้าราชการครู ภารกิจหลัก คือ การสอน ผู้ปฏิบัติงานต้องรู้จักบริหารเวลา และต้องเสียสละอย่างสูงในการปฏิบัติงาน เพราะถ้าหากเกิดการผิดพลาดอาจทำให้งานได้รับความเสียหายทั้งสองด้าน ฉะนั้นจึงต้องการวางแผนการทำงานอย่างรอบคอบ
๒. งบประมาณ  งานในสายสนับสนุนเป็นงานที่ต้องอาศัยปัจจัยทางการเงินและงบประมาณสูง แต่การจัดสรรงบประมาณในแต่ละปีมีจำกัดทำให้การบริหารจัดการเป็นไปด้วยความลำบาก ทำให้หลายครั้งงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ เนื่องจากการขาดงบประมาณในการสนับสนุน
๓. การบริหารงาน การบริหารงานบางครั้งไม่เป็นตามระบบที่กำหนดไว้ ภาระงานส่วนใหญ่จะตกอยู่ที่หัวหน้างานเป็นผู้รับผิดชอบ หัวหน้างานบางงานไม่ได้กระจายงานให้กับผู้ปฏิบัติงานทำให้งานเกิดการสะสมและไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ข้อเสนอแนะ
๑. เผยแพร่ความรู้ให้กับบุคลากรทั้งหมดของวิทยาลัยและฝึกปฏิบัติ เรื่อง เทคนิคการปฏิบัติงานสายสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพระบบ PDCA เพื่อให้ทุกคนคิดเป็น
๒. มีความชัดเจนในการวางแผน  กำหนดเป้าหมาย เพื่อให้ผู้ทำงานเข้าใจตรงกัน
๓. มีความชัดเจนในการกำหนดผู้รับผิดชอบเพื่อไม่ให้มีการเกี่ยงกันทำงาน
๔. จัดงบประมาณและอุปกรณ์ให้เพียงพอเพื่อไม่ให้งานหยุดชะงัก
๕. ควรมีการติดตาม ตรวจสอบการดำเนินงานและนำข้อมูลไปใช้อย่างจริงจังเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานเห็นความสำคัญของงานที่ทำ
๖. ควรมีการติดตามงานอย่างต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ
๗. ควรนำข้อมูลที่ได้ไปใช้จริง เช่น งานที่ไม่บรรลุเป้าหมายต้องหาวิธีการปรับปรุงแก้ไข และงานที่บรรลุเป้าหมายพัฒนาให้งานดีขึ้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น